11 ต.ค. 2554

Review กล้องวงจรปิด IP Camera MOLOC ML-PT01 บังคับ หมุนซ้าย ขวา และก้ม เงยได้

แกะกล่อง กล้องวงจรปิด ip camera

เริ่มต้นจาก ตัวกล่อง ของกล้องวงจรปิด IP Camera  MOLOC ML-PT01 กันก่อนครับ

กล้อง IP Camera กล้องไอพี MOLOC ML-PT01 จากตัวกล่อง

แกะกล่อง Moloc IP Camera กันเลย
สังเกต นะครับ กล้องวงจรปิด IP Camera รุ่นนี้จะเป็นสีขาว ซึ่งทางเราจงใจครับ (ไม่ได้สั่งผิด) เพราะทางเราเชื่อว่า กล้องไอพี สีขาว จะดูกลมกลืน และเป็นมิตรกับสีผนัง และฝ้าเพดาน คนไทยครับ
ถ้ากล้องวงจรปิด IP Camera เป็นสีดำ มันคงไม่กลมกลืน (เป็นตราบาป) และเสียทัศนวิสัย ในบ้าน หรือออฟฟิสครับ
กล้อง IP Camera กล้องไอพี MOLOC ML-PT01 แกะกล่อง
อุปกรณ์ในกล่องกล้อง IPCamera Moloc ML-PT01 มีดังภาพครับ
อุปกรณ์ในกล่อง กล้อง IPCamera กล้องไอพี MOLOC ML-PT01
คือจะมี
  • ตัวกล้องวงจรปิด IP Camera MOLOC รุ่น ML-PT01
  • ขายึดตัวกล้อง สำหรับติดตั้งฝาผนัง และเพดาน
  • ชุดตัวน๊อต สำหรับยึดขายึด
  • DC Wall Charger
  • สาย Lan Cable
  • Installation CD พร้อม VDO Demo การติดตั้ง
  •  
การติดตั้ง กล้องวงจรปิด IP Camera กับขายึดสามารถทำได้ง่ายๆดังนี้นะครับ
(คำเตือน หากกล้องวงจรปิด IP Camera มีปัญหา หลังการซื้อ สามารถเปลี่ยนได้ภายใน 7 วัน โดยที่กล้องไอพียังไม่ถูกยึดเท่านั้น
ดังนั้นก่อนติดตั้งทางเราแนะนำให้ Test การใช้งาน โดย Software ก่อนทุกครั้ง)

นำขายึด มาประกบกับ ฐานกล้องวงจรปิด IP Camera
กล้อง IP Camera MOLOC รุ่น ML-PT01 ติดตั้งกับขายึด
และหมุนเข้าไป ก็จะได้เช่นนี้ครับ
กล้อง IP Camera MOLOC รุ่น ML-PT01 ยึดขายึดกับกล้องไอพีเรียบร้อย
คราวนี้ก็พร้อมยึดแล้วครับ
กล้อง IP Camera MOLOC รุ่น ML-PT01 พร้อมติดตั้ง

ส่วนในแง่ของการติ้งตั้งระบบทาง Software สามารถเข้าชม ได้จาก
ขั้นตอนการติดตั้ง Software กล้องวงจรปิด MOLOC IP Camera (เร็วๆนี้) ครับ
โดยรายละเอียด สามารถดูได้จากคู่มือ และ VDO Clip ใน CD ที่มาด้วยกันกับตัวเครื่องนะครับ

ตัวอย่างภาพ จากกล้องวงจรปิด ip camera

ตัวอย่างภาพจากกล้อง Wireless IP Camera Moloc ML-PT01 ใน Site งานจริง เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว
ภาพการติดตั้ง กล้องวงจรปิด IP Camera ในสำนักงาน
จาก Web Browser จะมีเมนู ลูกศร เพื่อบังคับ กล้อง IP Camera ให้หมุน ซ้าย-ขวา บน-ล่าง และปรับ Brightness-Contrast ได้ตามความพอใจครับ


รองรับการดูกล้อง 4 ตัวพร้อมกัน ผ่านหน้า Web Browser โดยไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่มเติม



รองรับการดูกล้องสูงสุด 9 ตัวพร้อมกัน ผ่านหน้า Web Browser


ภาพการติดตั้ง กล้อง IP Camera ในร้านค้า

จากการ Review กล้องวงจรปิด IP Camera รุ่นนี้ ทุก Section ตั้งแต่ แกะกล่อง ติดตั้ง และการทดสอบภาพ พบว่า กล้อง IP Camera MOLOC รุ่นนี้ ติดตั้งค่อนข้างง่าย โดยผมเองแม้ไม่ได้เก่งเรื่อง Computer อะไรมากมายก็สามารถติดตั้ง กล้อง IPCamera รุ่นนี้ได้อย่างสบาย File VDO Clip ที่มากับ CD ช่วยได้ค่อนข้างมาก ข้อดีอีกข้อคือ กล้อง IP Camera รุ่นนี้ เป็นรุ่น Wifi การติดตั้งกล้อง จึงไม่ต้องเดินสายให้วุ่นวาย สะดวกมาก
ตัวกล้องวงจรปิด IP Camera ถือว่าตัวเล็ก และน้ำหนักเบา สนุกตรงที่สามารถบังคับให้หมุนขึ้นลง ได้ 120 องศา ซ้ายขวา 270 องศา ผ่าน Internet ได้ด้วย (เมื่อทำการ Set Port Forward จาก Router ที่ใช้งานแล้ว ตรงจุดนี้อาจต้องขอคำปรึกษากับผู้จำหน่าย Router หรือให้บริการ Internet ถ้าจำเป็น ไม่เกี่ยวกับกล้อง) ซึ่งสามารถบังคับ ควบคุมกล้อง IP Camera ผ่าน Smart Phone อาทิ Iphone Andorid Phone หรือ Tablet Ipad Galaxy ได้สบาย ผ่าน Web Browser  โดย ไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม
ในเรื่องของภาพที่ได้จากกล้อง IP Camera MOLOC รุ่นนี้ นับว่าชัดเจน เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นที่เคย Review มา ณ ตอนนี้ สีค่อนข้างสด ชัดเจนทั้งกลางวัน และกลางคืน
นอกจากนี้ ตัวกล้องวงจรปิดเอง ยังมีไมโครโฟน Built-in กับตัวกล้อง ทำให้สามารถรับฟังเสียงที่ผ่านกล้อง IP Camera ได้ด้วย
หากใครมองหา กล้อง IP Camera สำหรับ Indoor สักตัว ที่สะดวก ติดตั้งง่าย สามารถดูผ่านเนต และบังคับได้ กล้อง IP Camera MOLOC ML-PT01 นับว่าเป็นจุดเรื่องต้นที่ดี และคุ้มค่าครับ

ทางเราหวังว่า การ Review กล้อง IP Camera นี้จะทำให้เห็นภาพ และเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ สมาชิกไม่มากก็น้อยนะครับ

เชียงใหม่และภาคเหนือ ติดต่อสั่งซื้อได้ที คุณที 089-5312565

จะให้ติดตั้งและเซ็ตระบบให้ด้วยก็ได้นะครับ





ขอบคุณข้อมูล จาก 3G Vivaonline


5 ต.ค. 2554

การดูกล้องวงจรปิด ผ่านอินเทอร์เน็ตและมือถือ

ความสามารถในการดู กล้องวงจรปิด cctv ผ่านอินเทอร์เน็ตและมือถือนั้น ไม่ได้อยู่ที่ตัวกล้อง แต่จะอยู่ที่ความสามารถของ DVR ซึ่งคำเต็มๆ ก็คือ Digital video Recorder แปลเป็นไทยก็คือ เครื่องบันทึกภาพวีดีโอระบบดิจิทัล ซึ่งมีการบีบอัดภาพแบบ mp4 และ H.264 ระบบ H.264 ถือว่าเป็นการบีบอัดภาพที่ใหม่ล่าสุด ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บภาพที่น้อยกว่าแต่ให้คุณภาพของภาพได้ดีกว่า mp4 ส่วนการดูผ่านอินเทอร์เน็ตนั้น รองรับทั้งสองแบบ แต่การดูผ่านมือถือนั้นระบบ mp4 จะดูได้เฉพาะมือถือที่มีระบบปฏิบัติการวินโดว์ เช่น Sumsung Omnia  เป็นต้น ส่วน DVR ที่มีการบีบอัดภาพแบบ H.264 ส่วนมาก จะดูผ่านมือถือได้หลายระบบปฏิบัติการ เช่น iPhone, iPad, Symbian ส่วนมาก Nokia ใช้ระบบปฏิบัติการนี้, android และวินโดว์ ซึ่งระบบ android ตอนนี้กำลังมาแรงมีผู้ผลิตมือถือหลายเจ้านำมาใช้เป็น OS โทรศัพท์ของแบรนด์ตัวเอง เนื่องจากเป็น Open source ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งก็เป็นส่วนดีสำหรับผู้บริโภค จะได้ซื้อโทรศํพท์ในราคาที่ถูกลง เนื่องจากไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ และผู้ผลิต application ต่างๆ ก็หันมาผลิต app สำหรับ android มากขึ้น
      พูดเรื่องโทรศัพท์ไปเสียยาว เดี๋ยวมาต่อ เรื่องการทำให้กล้องวงจรปิด สามารถดูผ่านอินเทอร์เน็ตและมือถือกันต่อนะครับ เริ่มแรกเราต้องมีเน็ตใช้กันก่อนนะครับ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าดูผ่านเน็ต คิดล่วงหน้าไปอีกก็ได้นะครับว่า ต้องมีมือถือ ฮาๆๆ ไม่พูดกวนครับพูดจริง เพราะเราจะดูผ่านมือถือ ถ้าไม่มีมือถือแล้วเราจะดูผ่านอะไร และที่สำคัญมือถือต้องเข้าเน็ตได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Edge, GPRS, ยิ่งเป็น 3G ยิ่งดี บ้านเรา 3G ยังไม่พัฒนาเลย เครื่อข่ายก็ไม่ครอบคลุม มีแต่ในเมืองใหญๆ ประเทศลาว เพื่อนบ้านเราพัฒนาไปก่อนแล้ว จะเป็น 10G แล้ว ''อันนี้พูดเล่นครับ เพิ่งจะพัฒนาเป็น 4G''เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านเราชอบทะเลาะกัน ขัดผลประโยชน์กัน ความซวยเลยมาตกที่ประชาชนตาดำๆ อย่างพวกเรา ได้ใช้ของตกรุ่น ฮะๆๆฮา
      เมื่อมีเน็ตแล้ว ก็เอาสายแลนมาต่อเข้าด้านหลังโมเด็มอินเทอร์เน็ตซึ่งส่วนมากจะได้แถมมาจากผู้ให้บริการอย่าง ทีโอที 3bb อยู่แล้ว อีกด้านก็ต่อเข้าด้านหลังเครื่อง DVR ส่วนมากทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นก็จะมี port นี้อยู่ เขาเรียกพอร์ท RJ-45  ต่อไปสิ่งที่จะต้องจัดการมีอยู่ 3 ส่วน
      1.เข้าไปตั้งค่า ip ให้กับเครื่อง DVR ของเรา โรงงานของแต่ละย่อห้อจะตั้งมาอยู่แล้ว แต่มันอาจจะไม่ตรงกับค่า ip ในวงแลน เรา เข้าไปในส่วนของ Network ตั้งค่า ip ให้เป็น 192.168.1.200 ซึ่งตัวเลขกลุ่มสุดท้ายอย่าง 200 นี่ เราจะตั้งเป็น 2-254 ก็ได้ แต่พยายามอย่าให้มันชนกับค่า ip ทีโมเดมมันแจกแบบ DHCP มาให้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องก็แล้วกัน ถ้าโมเดมเราเซ็ตสตาร์ท ip แบบ DHCP เริ่มต้นที่ 10 คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่เปิดก็จะได้ ip นี้ โดยอัตโนมัติ ส่วนคอมพิวเตอร์เครื่องที่สองก็จะได้ ip 11 เป็นต้น ตรงเว็บพอร์ท ให้ตั้งเป็น 81 82  เป็นต้นไป ถ้าเป็น 80 จะเป็นพอร์ทที่เราเล่นเน็ตกัน ควรแยก
Subnetmask ก็เป็น 255.255.255.0 ส่วน Gateway ก็ถือว่าสำคัญ ส่วนมากจะเป็น 192.168.1.1 บางที่อาจจะเป็น 192.168.1.254  ในส่วน DNS1 ตั้งให้ตรงกับ GATEWAY ตำแหน่ง DDNS ใน DVR ปิดไว้ก็ได้ เราจะไปใช้ DDNS ที่โมเดมแทน มีค่าต่างกัน ตรงที่ผู้ให้บริการฟรีอย่าง dyn ถ้าไม่ใช่้ account ที่เสียเงินมันชอบบล็อค ดูได้บ้างไม่ได้บ้าง เมื่อจัดการกับ DVR เสร็จแล้วขั้นตอนต่อไป
      2.ไปสมัครใช้ชือ Domain กับทางผู้ให้บริการ ddns ซึ่งก็มีหลายเจ้า เช่น no-ip หรือ dyndns ผมจะยกตัว dyndns เพราะเสถียรดี เข้าไปที่ www.dyndns.com ใส่ชื่อที่อยู่ตามจริง ในส่วนที่สำคัญก็คือ username และ password เพราะเราจะเอาไปใส่ค่าไว้ที่ โมเดม ตรงส่วน ddns เพราะถ้ามันไม่ตรงมันก็จะไม่อัพเดท พร้อมทั้ง email ที่เราใช้สมัครด้วย ก็ถือว่าสำคัญ เมื่อสร้าง account เสร็จ dyn จะส่งข้อความไปที่เมล์เราที่ใช้สมัคร เพื่อให้เรา activated ก็อย่าลืมเข้าไปยืนยันที่เมล์เราตามลิงค์ที่เขาส่งไปนะครับ เมื่อกดตามลิงค์แล้วมันก็จะพาเรามาที่หน้าล็อกอิน ก็ใส่ user name และ password ที่เราตั้งไว้ เมื่อล็อกอินแล้ว ให้ไปที่ เมนู my services แล้ว ไปที่ add hostname ตั้งชื่ออะไรก็ได้ที่เราต้องการ แต่ต้องไม่ซ้ำกับคนอื่น ซึ่งมันก็ฟ้องขี้นมาเอง นามสกุล แนะนำให้ใช้ .org นะครับ ตรงช่องสี่เหลี่ยมยาวๆ ด้านล่างมันจะมีค่า ip จริงของเราที่ได้รับจาก ทีโอที หรือ 3bb อยู่ให้เอาเม้าส์คลิกเลย มัน่จะเด้งไปอยู่ในช่องเอง อย่าลืมขั้นตอน proceed และ activate นะครับ เดี๋ยวจะไม่ทำงาน
      3.เข้าไปจัดการในส่วนของโมเดม โดยเปิด ie หรือ firefox ก็ได้ พิมพ์ 192.168.1.1 ก็ต้องเช็คดูก่อนว่าโมเดมเราใช้ค่าวงแลนนี้หรือปล่าว โดยดับเบิลคลิกที่รูปคอมฯด้านล่างขวาของจอคอมฯเรา ซึ่งมันจะโชว์เวลาเราเข้าเน็ต แล้วช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆจะเด้งขึ้นมา มีสองส่วน General และ Support ให้คลิกตรง Support ฝั่งขวามือนั่นแหละก็คือกลุ่มตัวเลขในวงแลนเรา เมื่อพิมพ์ตัวเลขตรงแล้ว จะเข้าไปในส่วนหน้าของโมเดมซึ่งมันจะถามยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ด ของโมเดม จากโรงงานส่วนมากจะเป็น admin ถ้าเป็น ทีโอที ยูสเซอร์เนมก็จะเป็น admin พาสเวิร์ดเป็น tot ถ้าเป็น 3bb ยูสเซอร์เนมเป็น admin พาสเวิร์ดเป็น 3bb ซึ่งบางทีอาจจะถูกเปลี่ยนจากผู้ติดตั้งหรือเจ้าของเองไปแล้วก็ได้ให้จดไว้ด้วย ไม่งั้นรีเซ็ตใหม่อย่างเดียว เมื่อเข้าโมเดมได้แล้วให้ไปที่ส่วนของ basic และคลิกตรง NAT และ Virtual server อันนี้สำหรับ Huawai นะครับ ผมจะเอายี่ห้อนี้เป็นตัวอย่างเพราะเจอบ่อย 3bb เขาชอบแถมให้ชาวบ้านใช้ อาจจะเป็นเพราะดี ราคาถูกหรือปล่าวก็ไม่ทราบ ให้ไปถาม CEO เขาเอาเอง ส่วน ทีโอทีก็แถม TP-Link ซึ่งก็แตกต่างกันบ้างในการเซ็ต เพราะ Tp-Link เข้าตรง advanced setup และเลือก NAT และเลือก Virtual  server เหมือนกัน  เมื่อเข้าไปในส่วนของ Virtual server แล้วตรง Start Port Number และ End Port Number ให้ตั้งเลขพอร์ทเป็น 81 หรือ 82 หรืออะไรก็ได้ให้ตรงกัีบที่ตั้งไว้ที่ DVR ส่วน ip ก็เหมือนกัน ให้ตรงกับ ที่ตั้งไว้ที่ DVR เมื่อเสร็จแล้วให้กด submit สำหรับ Huawai  หรือ save สำหรับ Tp-link ต่อไปก็ไปในส่วนของ DDNS ของ Huawai ไปที่ advanced ของ TP-link ไปที่ access management แล้วมองหา DDNS แล้วให้ติ๊กถูกตรงช่อง enable สำหรับ Huawai สำหรับ Tp-link ให้ติ๊กถูกตรงช่อง activated และตรง host name, email, username, password ให้ใส่ตามที่เราได้สมัครไว้กับ Dyndns กด submit ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
      สำหรับการติดตั้ง app ให้ดูกล้องผ่านมือถือได้เอาไว้วันหลังมาต่อครับ ง่วงแล้ว

3 ต.ค. 2554

กล้องวงจรปิด ซูมและสปีดโดม Zoom & speed dome camera

กล้องวงจรปิด ซูมและสปีดโดม เป็นกล้องที่เหมาะกับการใช้งานในสถานที่กว้างและำไกล เช่นในโรงงาน สนาม สี่แยกไฟแดง บางรุ่นซูมได้ไกล ขึ้นอยู่กับสเป็คของกล้อง เช่น 10x 23x 27x คือซูมได้กี่เท่านั่นเอง ความสามารถในการแพนซ้ายขวา ก้มเงย กี่องศา  ดูสเป็คกล้อง 2 รุ่น  ด้านล่้าง


Model: HI-240Se
ลักษณะเฉพาะ:

- ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4" ยี่ห้อ SONY, HAD CCD
- ความละเอียด 550 TV Line(color)และ650 TV Line(B/W)
- ค่าการรับภาพแม้มีแสงน้อย 0.1-0.00005Lux/F1.6
- เทคโนโลยีปรับสีขาวของภาพอัตโนมัติ (ATW)
- เลนส์ Optical ซูมได้ 27x
- หมุนได้ 360 องศา/ความเร็วในการหมุน 180 องศา/วินาที

- แหล่งจ่ายไฟ AC 24 V





Model: HI-7522D/N
ลักษณะเฉพาะ:
- ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4" ยี่ห้อ SONY, HAD CCD
- ความละเอียด 530 TV Line(color)

- ค่าการรับภาพแม้มีแสงน้อย 0.03lux(color) /0.005lux (BW)
- เทคโนโลยีปรับสีขาวของภาพอัตโนมัติ (ATW)
- เลนส์ Optical ซูมได้ 23x
- หมุนได้ 360 องศา/ความเร็วในการหมุน 180 องศา/วินาที

3 ก.พ. 2554

กล้องอินฟาเรด

อินฟราเรด infra red คือแสงที่มนุษย์เราไม่สามารถมองเห็นได้ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่ต่ำกว่า

แสงสีแดง แต่สัตว์บางชนิดและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถเห็นหรือตรวจจับได้ วัตถุบางอย่างทึบแสงที่เรา
มองเห็น แต่อินฟราเรดผ่านได้ เช่นเมฆ การถ่ายภาพจากดาวเทียมบางครั้งจึงจับแสงอินฟาเรดแทนการถ่ายภาพสีปกติ วัตถุบางอย่างก็ทำมาเพื่อป้องกันแสงอินฟราเรดโดยเฉพาะ อย่างเช่นฟิล์มกันร้อนติดรถยนต์

ข้อดีของ กล้องอินฟาเรด ก็คือ แม้กลางคืนมืดสนิทก็มองเห็น กลางวันมีแสงสว่างภาพก็คมชัด กล้องวงจรปิดอินฟาเรด มีทั้งแบบทรงโดมและแบบทรงกระบอก ดังรูปด้านล่าง
 
                      กล้องอินฟาเรด ทรงโดม                        

กล้องอินฟาเรด ทรงกระบอก

ข้อควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อ กล้องอินฟาเรด ก็คือ


- ขนาดเลนด์และยี่ห้อของ Ship ประมวลผลภาพ เช่้น ship sharp, ship sony ตัวอย่าง SONY 1/3" CCD
- ค่าความละเอียดลายเส้น TV Line ยิ่งสูงยิ่งดี จะทำให้มีความละเอียดมากขึ้น เช่น 380, 420, 520, 580, 600 TV Line
- ค่ากินแสง หรือความไวต่อแสง Lux ยิ่งค่าน้อยยิ่งดี เช่น 0 Lux ซึ่งไม่ต้องมีแสง มืดสนิทก็มองเห็น
-จำนวนหลอด LED ยิ่งมาก ก็ยิ่งดี ทำให้การตรวจจับภาพในที่มืดทำงานได้ดี ภาพสว่างมากขึ้น
- ระยะอินฟาเรด คิดเป็นเมตร เช่่น 10 เมตร 15 เมตร 20 เมตร 50 เมตร เป็นต้น ยิ่งมากค่าตรวจจับของแสงอินฟาเรดก็ไกล ทำให้มองเห็นได้ไกล การบันทึกภาพก็ได้ไกล
-เลนด์ มีตั้งแต่ 3.6 mm. ถึง 12 mm. ค่าน้อย มองได้มุมกว้าง แต่จะทำภาพใกล้ให้ไกลออกไป ค่ามากมุมมองจะแคบลง แต่จะดึงภาพใกลเข้ามาใกล้ คือซูมนั่นเอง

ตัวอย่าง คุณสมบัติเด่นของกล้องอินฟาเรด ของยี่ห้อ Hi-view Model: HI-5133

Features:
1/3” SONY CCD Sensor เลนส์1/3” ชิป sony
520 TV line 0.1 Lux/F2.0 / IP65 ความละเอียด 520 ทีวีไลน์ กินแสง 0.1 Lux
LED 91 pcs. 30M 0 Lux IR On จำนวน LED 91 เม็ด ระตรวจ 30 เมตร โดยไม่ต้องมีแสงเลย
Lens 6 mm.(4-9mm variforcal) เลนสื มีตั้ง 4-9 mm.
S/N more 48 dB,(oAGC, BLC Aut)
Power AC 220V

สนใจติดตั้ง กล้องอินฟาเรด ที่เชียงใหม่ ติดต่อได้ที่ คุณที 0895312565 
หรือคลิกที่ลิงค์นี้  กล้องอินฟาเรดเชียงใหม่

การเลือกเครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด DVR

การเลือกซื้อกล้องวงจรปิดนอกจากจะต้องเลือกกล้องที่มีความคมชัดแล้ว ที่สำคัญและจะมองข้ามไปไม่ได้คือกการเลือกซื้อ DVR หรือเครื่องบันทึกภาพ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์/DVR จะเป็นมาตรฐานเดียวกัน
1. ขนาดของภาพที่บันทึก จะบอกเป็น
- D1 เท่ากับ 720x576 อัตราส่วน 1.25:1 414,720 Pixels
- 4CIF เท่ากับ 704x576 อัตราส่วน 1.22:1 405,504 Pixels
- DCIF เท่ากับ 528x284 อัตราส่วน 1.86:1 149,952 Pixels
- 2CIF เท่ากับ 704x288 อัตราส่วน 2.44:1 202,752 Pixels
- CIF เท่ากับ 352x288 อัตราส่วน 1.22:1 101,376 Pixels
- QCIF เท่ากับ 176x144 อัตราส่วน 1.22:1 25,344 Pixels

ขนาดของภาพบันทึกที่ใหญ่ จะมีความคมชัดมาก เวลาดูย้อนหลังภาพจะไม่แตก แต่จะใช้เนื้อที่ในการบันทึกมาก ทำให้เปลืองเนื้อที่บนฮาร์ดดิส

2. จำนวนเฟรมที่บันทึก(เฟรม คือจำนวนภาพต่อวินาที)
ตัวอย่าง
Record resolution -CIF / 25fps
-2CIF / 12fps
-DCIF / 8fps
หมายความว่า DVR ตัวนี้สามารถบันทึกภาพ ที่คุณภาพ CIF ที่ 25 เฟรม(Realtime)
2CIF ที่ 12 เฟรม (Not Realtime)
บันทึกสูงสุดที่ DCIF ที่ 8 เฟรม (Not Realtime)
การเลือกควรเลือก DVR ที่สามารถบันทึกได้ ตามความต้องการ เช่น ต้องการความคมชัดมาก ควรเลือ DVR ที่สามารถบันทึกได้ D1, 4CIF, DCIF แต่จะมีราคาสูงและใช้เนื้อที่ฮาร์ดดิสมาก DVR ประเภทนี้จะราคาสูง ภาพที่บันทึกออกมาได้จะมีความคมชัดสูง เช่น D1 ภาพที่บันทึกออกมาจะได้เทียบเท่ากับ DVD

**ข้อสำคัญ DVR ที่ขายส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแจ้งรายละเอียดตรงนี้ชัดเจนนัก ส่วนใหญ่จะเอารายละเอียดของการแสดงผลมาแสดงเป็นจุดขาย ซึ่งไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ภาพมีความคมชัด ตัวอย่างเช่น

- Display Resolution 25 fps : Camera(Realtime)
- Display Resolution 400 fps (Realtime)
- Resolution 400 fps (Realtime)
ตัวอย่างที่แสดงคือการบอกว่าภาพที่แสดงผล มาตรฐาน คือ 25 เฟรมต่อ กล้อง ถ้ามีกล้อง 16 ตัว x 25 เท่ากับ 400

ซึ่งไม่เกี่ยวกับภาพที่บันทึกแต่อย่างใด พูดง่ายๆ คือดูภาพปัจจุบันชัดแต่ดูย้อนหลัง ไม่ชัด

วิธีเลือกที่ดีที่สุดคือก่อนซื้อให้คนขายลองตั้งบันทึกที่คุณภาพสูงสุด แล้วเปิดดูย้อนหล้องขยายภาพให้เต็มจอ และแสดงการคำนวณการใช้ฮาร์ดดิสว่าสมควรจะใส่เท่าไหร่โดยกำหนดจำนวน สมมุติ ต้องการที่ 30 วันต้องใส่ฮาร์ดดิสเท่าไหร่

ขอยกตัวอย่างรายละเอียด ยี่ห้อ AVTECH รุ่น AVT706

Video Input 4 Channels.

Maximum Recording Rate Frame: 720 x 480 pixels with 30 IPS < NTSC > / 720 x 576 pixels with 25 IPS < PAL > CIF: - 352 x 240 pixels with 120 IPS < NTSC > / 352 x 288 pixels with 100 IPS < PAL >

สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือสีแดงครับ ของระบบ PAL ส่วนสีเขียวไม่เกี่ยว เป็นระบบ NTSC เพราะประเทศไทยใช้ระบบ PAL ทั้งหมด

DVR นี้เป็น DVR 4 ช่อง

ฉนั้นถ้าบันทึกที่ 720x576 (D1) จะได้เฟรมกล้องละ 6 เฟรม (25 หารด้วย 4 เท่ากับ 6) ภาพที่ดูย้อนหลังกระตุกเพราะบันทึกที่ 6 ภาพต่อวินาที ชัดแต่กระตุก

ถ้าบันทึกที่ 352 x 288 (CIF) จะได้เฟรมกล้องละ 25 เฟรม (100 หารด้วย 4 เท่ากับ 25) ภาพที่ดูย้อนหลังไม่กระตุก(น้อยกว่า)เพราะบันทึกที่ 25 ภาพต่อวินาที แต่ภาพไม่ชัด

***ไม่ได้บอกว่า DVR รุ่นนี้หรือยี่ห้อนี้ไม่ดีนะครับ แต่ตามรายละเอียดบอกไว้ตรงทุกอย่าง เพียงแต่คนขายหรือเซลส์ไม่ได้แจ้งท่านแค่นั้นเอง หากตอนติดตั้งช่างถามว่าต้องการบันทึกแบบไหน ท่านก็ตอบว่าแบบเรียวไทม์ (Real time) แน่นอนว่าช่างต้องตั้งที่ CIF 352x288 ท่านบอกอีกว่าได้ 15 วันนะ(ตามที่เซลส์บอกว่าได้) สมมุติว่าฮาร์ดดิส 80 GB ช่างรู้แน่นอนว่า ตั้งที่ 25 เฟรม บันทึกได้ไม่ถึง 15 วันแน่ (ช่างไม่ใช่เซลส์) เลยต้องตั้งเป็น CIF 352x288 ที่ 12 เฟรม

แล้วท่านก็ดูที่ภาพปัจจุบันว่าชัดแล้วok ผ่าน
ผลตามมาคือเวลาดูย้อนหลังภาพไม่ชัดแถมยังกระตุกอีก

มาตรฐานDVR